วันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2553

สรุปบทเรียนที่ 3

บทที่ 3 ความรู้เกี่ยวกับธรณีวิทยา



วัฏจักรหิน (Rock Cycle)




แร่ (Mineral)


ธาตุหรือสารประกอบอนินทรีย์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มีโครงสร้างที่เป็นระเบียบ มีสูตรเคมีและสมบัติอื่นๆ ที่แน่นอนหรือเปลี่ยนแปลงได้ในวงจำกัด


ทฤษฎีทวีปเลื่อน(Continental Drift Theorly)


ในปี ค.ศ.1915 นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันชื่อ alfredWegenerได้เสนอสมมติฐานทวีปเลื่อนขึ้น และได้รับการยอมรับในปี ค.ศ.1940 สมมติฐานกล่าวไว้ว่า เมื่อราว 250 ล้านปีก่อน ทวีปต่างๆ เคยติดกันเป็นทวีปขนาดใหญ่เรียกว่า พันเจีย(Pangea) ต่อมามีการเคลื่อนตัวแยกออกจากกัน จนมาอยู่ในตำแหน่งปัจจุบัน การเดินทางของอนุทวีปไทย เมื่อ 465 ล้านปีก่อนดินแดนประเทศไทยยัง แยกตัวอยู่ใน 2 อนุทวีปฉานไทย(ส่วนของภาคเหนือลงไปถึงภาคตะวันออกและภาคใต้) และอนุทวีปอินโดจีน (ส่วนของภาคอิสาน) อนุทวีปทั้งสองขณะนั้นยังเป็นส่วนหนึ่งของผืนดินกานด์วานา


ต่อมาประมาณ 400-300 ล้านปีก่อนดินแดนประเทศไทยทั้งส่วนอนุทวีปฉานไทยและอนุทวีปอินโดจีน ได้เคลื่อนที่แยกตัวออกจากผืนแผ่นดินกอนด์วานา แล้วหมุนตัวตามเข็มนาฬิกาขึ้นไปทางเหนือ


หลักฐานที่เชื่อว่าแผ่นทวีปเคลื่อนที่นี้คือ


>

*ในปัจจุบันได้พบชนิดหิน ที่เกิดในสภาวะแวดล้อมเดียวกันแต่อยู่คนละทวีปซึ่งห่างไกลกันมากเป็นหินอายุเดียวกัน
*หินที่อยู่ต่างทวีปกันมีรูปแบบสนามแม่เหล็กโลกโบรา
*คล้ายคลึงกันขอบของทวีปสามารถเชื่อมตัวประสานแนบสนิทเข้าด้วยกันได้



ธรณีสัณฐานวิทยา GEOMORPHOLOGY

Weathering process



• กระบวนการผุกร่อน (weathering process)
• การสลายตัวผุพังของหิน แ ละ แ ร่เกิดจากปัจจัย แ ละกระบวนการที่สำคัญ 3 กระบวนการได้แก่
• กระบวนการทางกายภาพ (physical process)
การ แ ตก แ ยกสลายตัวผุพังโดยไม่ทำให้ส่วนประกอบของหินหรือ แ ร่ แ ละคุณสมบัติเดิมเปลี่ยนแปลงไป
• กระบวนการทางเคมี (chemical process)
การแ ตกแ ยกสลายตัวผุพัง ทำให้แ ร่เดิมเกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นสารประกอบใหม่ มีคุณสมบัติที่แตกต่างจากเดิม
• กระบวนการทางเคมีชีวภาพ (biochemical process)
อินทรียวัตถุหรือกระบวนการทางชีวภาพมักจะช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

องค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับการผุกร่อนประกอบด้วยปัจจัยที่สำคัญ ได้แก่

• ความคงทนถาวรของแร่
• สภาพภูมิอากาศ อุณหภูมิ และปริมาณของฝน
• ลักษณะภูมิประเทศ ความสูงของพื้นที่และการหลั่งไหลของน้ำ

ความคงทนถาวรและความยากง่ายของการสลายตัวผุพังของหินจะแตกต่างออกไปตามสภาพพื้นที่และส่วนประกอบของหินโดยปกติแล้วแร่ที่เกิดในขณะที่มีอุณหภูมิสูงและมีความคงทนน้อยกว่า แร่ที่เกิดที่อุณหภูมิต่ำกว่า โดยความคงทนถาวรของแร่จะเรียงลำดับได้ตามลำดับการเกิดแร่ ตามกระบวนการของBowen’s reaction series

การสลายตัวผุพังของหิน


กษัยการของลำน้ำFLUVIAL PROCESSES





น้ำในทางน้ำ = น้ำที่ตกลงบนพื้นโลก - (น้ำที่ซึมลงสู่พื้นดิน + น้ำที่ระเหย + น้ำที่พืชคาย)หรือ Run off = precipitation - (infiltration + evaporation + transpiration)

กษัยการของลำน้ำ
การกัดกรอน (Erosion)
1. การครูดไถ (Corrasion)
2. การผุตัว (Corrosin)
3. การสึกกรอน (Attrition)
การนำพา (Deflation) : Saltation, Suspension loadh
ความลาดเทของทองน้ำ, รูปรางทางเรขาคณิตและความราบเรียบของทองน้ำ, และ ปริมาณน้ำ
การทับถม (Deposition)
ลักษณะภูมิประเทศบริเวณหุบเขาต้นน้ำ

รองน้ำ (Channel)

เกิดจากการกัดเซาะของรองน้ำประกอบกับธารเปนลักษณะของหุบผาชันที่ลึกและเป็นลักษณะคลายรูปตัววี (V-Shape) เกิดจากกระบวนการกัดเซาะที่เปนไปอยางรวดเร็วและรุนแรง จากกระแสน้ำไหลจนสามารถกัดเซาะหินที่แข็งแรงได



หุบผาชัน (Canyon)
ลักษณะภูมิประเทศที่มักเกิดในเขตภูมิอากาศแหงแล้ง ที่มีฝนตกเปนครั้งคราว จะทำให้เกิดกษัยการขึ้นอยางรุนแรงทำให้หุบเขาที่เป็นทางของลำน้ำมีการขยายตัวออกกว้าง และลำน้ำจะมีการกัดเซาะหุบผาชันและลึกลงไปมาก เช่น แกรนดแคนยอน ที่มีแม่น้ำโคโลราโดไหลผาน ในประเทศ
แก่ง (Rapid)

เกิดจากการกัดเซาะบริเวณท้องน้ำที่มีความแตกตางกัน เนื่องจากความแข็งของ หินท้อ น้ำสวนที่แข็งแกรงหลงเหลืออยูกลายเปนโขดหินกระจัดกระจายอยูตามท้องนน้ำ ในฤดูแล้งเมื่อระดับน้ำลดลงจะปรากฏแก่งขึ้นมากมาย ถาโขดหินเหลานี้มีขนาดใหญกีดขวางการไหลของกระแสน้ำทำให้เกิดกระแสน้ำไหลโจนผานโขดหินเหลานี้ เราจึ เรียกวา แกงน้ำตก (Cataract)วัน
กุมภลักษณ (Pothole)


เกิดจากการกัดเซาะของลำน้ำตามท้องน้ำโดย เกิดจากการไหลวนของกระแสน้ำที่มีตะกอนจำพวก กรวด ทราย หรือหินขนาดเล็กพัดพามาครูดไถหินดินดานทำให้เกิดลักษณะของโพรงหิน หลุมทรงกระบอกหรือ หลุมทรงหม้อ ปรากฏอยูในหินดินดานตามท้องน้ำ ขนาดของกุมภลักษณมีตั้งแตขนาด 2 - 3 เซนติเมตร จนถึง 40 - 50เซนติเมตรวัน
ลักษณะภูมิประเทศบริเวณที่ราบตอนกลางและตอนปลายของแมน้ำ ตะพักลำน้ำ เป็นที่ราบแคบๆ ที่มีระดับลดหลั่นกันลงมา มักปรากฏตามสองฟากฝงแมน้ำ ประกอบ ด้วย ดิน ทราย กรวด เป็นต้นสาเหตุเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงระดับความสูงของพื้นแผนดินอันเนื่องมาจากการยกตัว หรือการยุบตัวที่เกิดขึ้นมาสลับกันเปน ครั้งคราว หรือเกิดจากการทับถมของตะกอนที่เป็นไปอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน
ตะพักลำน้ำ (Stream)

ตะพักลำน้ำที่มีอายุมากจะอยูสูง สวนที่อายุนอยจะอยูลดหลั่นกันลงมาตามลำดับ

เนินตะกอนรูปพัด (Alluvian Fan)
เกิดจากการตกตะกอนทับถมของวัตถุที่ถูกน้ำพัดพามาและลำน้ำมีการไหลผ่านลงมาจากหุบเขาชัน (Canton) สูที่ราบ (Plain) ทำให้การเปลี่ยนระดับของลำน้ำลงอยางรวดเร็วทำให้ความรุนแรงของกระแสน้ำลดลง เกิดการตกตะกอนทับถมของตะกอนแผ่กระจายเป็นรูปพัดขึ้นมาในบริเวณหุบเขา เนินตะกอนรูปพัดมีรูปร่างคล้ายกรวย (Cone Shape) มีขนาดกว้างใหญเป็นดินตะกอนที่ถูกแม่น้ำพัดพามามักพบบริเวณที่ราบเชิงเขา เป็นส่วนมาก
ที่ราบลุมแม่น้ำ
ที่ราบลุมแม่ น้ำ เกิดจากกระบวนการทับถมของตะกอนขนาดต่างๆท้างด้านใน ของทางโค้งแมน้ำ ซึ่งเป็นการทับถมในตัวของแม่น้ำไปเรื่อยๆ ในขณะที่ลำน้ำไหลไป ลักษณะดังกล่าว บริเวณด้านข้างริมน้ำด้านหนึ่งจะถูกกัดเซาะออกไปทับถมยังอีกด้านหนึ่งของลำน้ำ

สรุปบทเรียนที่ 4




บทที่ 4 ธรณีวิทยาประเทศไทย


ลำดับชั้นหินในประเทศไทย



แบ่งหินออกเป็นยุคต่างๆ โดยใช้วิธีการจัดลำดับตามอายุกาล(Chronostratigraphic system)
ประเทศไทยมีหินตั้งแต่อายุพรีแคมเบรียน(อายุมากสุด)จนถึงอายุควอเตอร์นารี (Quaternary)
หินที่พบ หินตะกอน(Sedimentary rocks)
หินแปร(Metamorphic rocks)
และ หินอัคนี (Igneous rocks)

ภูมิสัณฐานของประเทศไทย

1.ลักษณะบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันตกตอนบน (Northern and Upper WesternRegions)
2.ที่ราบลุ่มภาคกลางหรือที่ราบลุ่มเจ้าพระยา (Central or chao phraya plain)
3.ธรณีวิทยาบริเวณเทือกเขาเลย-เพชรบูรณ์
4.ที่ราบสูงโคราช หรือที่ราบสูงตะวันออกเฉียงเหนือ (Khorat or northeastplateau)
5.ภาคตะวันออก (Easthern upland)
6.ธรณีวิทยาบริเวณภาคตะวันตกตอนล่างและภาคใต้ลักษณะภูมิประเทศและภูมิสัณฐานบริเวณอ่าวไทย (The Gulf of Thailand)
7.ธรณีวิทยาบริเวณทะเลอันดามัน

ธรณีวิทยาภาคเหนือและภาคตะวันตกตอนบน(NORTHERN AND UPPER WESTERN)



ธรณีวิทยาภาคเหนือ


รวมเอาท้องที่แถบภูเขาซึ่งอยู่ทางตะวันตก ตะวันตกเฉียงเหนือและเหนือกรุงเทพฯเข้าด้วยกัน เป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำลำธารต่างๆ แบ่งออกได้ 2 เขต

-เขตผีปันน้ำ คลุม แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง แพร่ น่านแบ่งทางน้ำไหลไป 3 ทาง ทิศเหนือไหลลงแม่น้ำโขง ทางทิศใต้และทิศตะวันออกไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ด้านตะวันตกไหลลงแม่น้ำสาละวินในพม่าเป็นต้นแม่น้ำสำคัญ 4 สาย ได้แก่ แม่น้ำปิง วัง ยม และน่าน และทั้งหมดไหลมารวมกันเป็นแม่น้เจ้าพระยา

-เขตตะนาวศรี จังหวัดสำคัญคือ ตากและจังหวัดกาญจนบุรี ตะวันตกติดพม่าตะวันออกติดกับที่ราบลุ่มเจ้าพระยา ภูเขาวางตัวในแนวเหนือใต้คล้ายแบบผีปันน้ำ ต้นกำเนิดแม่น้ำ 3 สาย แม่น้ำเมย แม่น้ำสะแกกรังและแม่น้ำแควใหญ่

ที่ราบลุ่มภาคกลางหรือที่ราบลุ่มเจ้าพระยา

บริเวณที่ราบลุ่มนี้อยู่ตอนกลางของประเทศครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของที่ราบลุ่มเจ้าพระยาตอนบนและตอนล่างซึ่งเกิดจากการกระทำของแม่นํ้าทั้งหมดที่ไหลลงสู่อ่าวไทย ประกอบด้วยแม่นํ้าสายสำคัญคือ แม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำปิง วัง ยม น่าน ซึ่งเป็นแม่น้ำสาขาที่ไหลจากภูเขาสูงทางภาคเหนือของประเทศ โดยพัดพาตะกอนมาสะสมตัวในพื้นที่ตอนล่างที่เคยอยู่ใต้ระดับน้ำทะเลมาก่อนจนกลายเป็นพื้นที่ราบกว้างใหญ่โผล่เหนือระดับน้ำทะเล

ที่ราบลุ่มภาคกลางออกเป็น 2 บริเวณ
- ที่ราบลุ่มภาคกลางตอนบน (Upper Central Plain)
-ที่ราบลุ่มภาคกลางตอนล่าง (LowerCentral Plain)

ที่ราบลุ่มภาคกลางตอนล่าง (LOWER CENTRALPLAIN)
ครอบคลุมพื้นที่ตอนล่างของจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่บริเวณปากน้ำโพเรื่อยลงมาจนถึงปากแม่น้ำเจ้าพระยาที่จังหวัดสมุทรปราการ
ในเขตจังหวัดนครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี มีความสูงเฉลี่ยประมาณ20 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง จากนั้นระดับความสูงจะค่อยๆ ลดลงจนถึงบริเวณจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีความสูงเฉลี่ย 2.5 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง


ธรณีวิทยาทั่วไป
เกิดจากการเคลื่อนไหวของรอยเลื่อนใหญ่ ได้แก่ รอยเลื่อนแม่ปิง(ต่อเลยไปเกือบเชื่อมกับรอยเลื่อนเมย) รอยเลื่อนอุตรดิตถ์ (น้ำปาด)และรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ ในยุคครีเทเชียสตอนปลายถึงยุคเทอร์เชียรี ซึ่งต่อเนื่องจากการเปิดตัวของอ่าวไทยทางใต ้และการเกิดแอ่งเทอร์เชียรีในบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันตกตอนบนและตามด้วยการเกิดรอยเลื่อนในแนวเหนือ-ใต้ (Bunopas) 1981

ลำดับชั้นหินทั่วไป

หินมหายุคพาลีโอโซอิกตอนล่าง หินยุคไซลูเรียน-ดีโวเนียน พบบริเวณรอบ ๆ จังหวัดนครสวรรค์ ประกอบด้วย หินทัฟฟ์ บริเวณเขาหลวงด้านตะวันตกของอำเภอเมืองนครสวรรค์ หินปูนบริเวณเขาขาด เขามโน ในเขตอำเภอสลกบาตร จังหวัดกำแพงเพชรนอกจากนี้ยังมีหินเชิร์ต เช่น ที่บริเวณอำเภอขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร เขากบอำเภอเมืองกำแพงเพชร และบริเวณเขาเล็กๆ ด้านทิศใต้ของจังหวัดนครสวรรค์ และนอกจากนั้นยังพบเป็นแนวเขาสั้นๆ บริเวณขอบแอ่งเจ้าพระยาด้านตะวันตกอีกด้วย

หินมหายุคพาลีโอโซอิกตอนบน หินยุคคาร์บอนิเฟอรัส ส่วนใหญ่ เป็นหินทรายสีแดง มีหินดินดาน และหินทรายแป้งสีแดงแทรกสลับ พบบริเวณอำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์และบริเวณจังหวัดชัยนาท เช่น หินทรายบริเวณเขาตาคลี อำเภอตาคลี

หินมหายุคมีโซโซอิก ในมหายุคมีโซโซอิกตอนต้นเป็นหินตะกอนภูเขาไฟแทรกสลับกับหินปูน ซึ่งถูกปิดทับแบบไม่ต่อเนื่องด้วยชั้นหินแดงของกลุ่มหินโคราช หินเหล่านี้วางตัวในแนวประมาณทิศเหนือ-ใต้ บริเวณขอบที่ราบภาคกลางด้านตะวันออก และพบอยู่น้อยมากบริเวณขอบด้านตะวันตก
หินมหายุคซีโนโซอิกหินยุคเทอร์เชียรีในที่ราบลุ่มภาคกลางพบถูกปิดทับโดยตะกอนควอเทอร์นารีทั้งแอ่ง ข้อมูลทางธรณีวิทยาจึงได้มาจากการเจาะสำรวจและข้อมูลทางธรณีฟิสิกส์ พบเป็นแอ่งขนาดใหญ่ 3 แอ่ง คือ แอ่งพิษณุโลก แอ่งสุพรรณบุรี และแอ่งธนบุร

หินอัคนี ที่พบทางด้านทิศใต้จังหวัดนครสวรรค์ลงมาทางจังหวัดอุทัยธานีและทางทิศตะวันออกของจังหวัดนครสวรรค์ ส่วนใหญ่อยู่ในแนวเหนือ-ใต้

ธรณีวิทยาบริเวณเทือกเขาเลย-เพชรบูรณ์






ขอบเขตของบริเวณเทือกเขาเลยติดต่อเพชรบูรณ์ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดเลยเพชรบูรณ์ บางส่วนของจังหวัดพิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี และนครนายก ด้านทิศตะวันตกติดต่อกับที่ราบลุ่มภาคกลาง ส่วนด้านทิศตะวันออกติดต่อกับที่ราบสูงโคราชโดยมีเทือกเขาเพชรบูรณ์และดงพญาเย็นเป็นแนวเขตแดน ทางตอนเหนือของบริเวณนี้จรดประเทศลาว ส่วนทางทิศใต้ติดกับเทือกเขาสันกำแพง
เทือกเขาเพชรบูรณ์เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำป่าสักซึ่งไหลเป็นแนวค่อนข้างตรงจากทิศเหนือลงสู่ทิศใต้ บริเวณสองฝั่งแม่น้ำเกิดเป็นที่ราบลุ่มแบบตะพักลุ่มน้ำ กว้างและขนานกันไป
เทือกเขาเพชรบูรณ์เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำป่าสักซึ่งไหลเป็นแนวค่อนข้างตรงจากทิศเหนือลงสู่ทิศใต้ บริเวณสองฝั่งแม่น้ำเกิดเป็นที่ราบลุ่มแบบตะพักลุ่มน้ำ กว้างและขนานกันไป


ลำดับชั้นหินทั่วไป


หินมหายุคพาลีโอโซอิกตอนล่าง เป็นหินที่เชื่อว่าแก่ที่สุดในบริเวณนี้ได้แก่ หินยุคไซลูเรียน-ดีโวเนียน ซึ่งโผล่ให้เห็นได้ตั้งแต่บริเวณริมแม่น้ำโขงประมาณ กม.15ถนนสายอำเภอปากชม-อำเภอสังคม ต่อเนื่องลงมาทางใต้จนถึง ด้านตะวันตกของบ้านโชคชัย อำเภอน้ำโสม จังหวัดอุดรธานี
หินมหายุคพาลีโอโซอิกตอนบน ประกอบด้วยหินยุคคาร์บอนิเฟอรัส พบแผ่กระจายกว้างขวางในเขตจังหวัดเลย ตั้งแต่อำเภอปากชมต่อเนื่องลงไปทางใต้จนถึงอำเภอวังสะพุงและทางตะวันออกเฉียงเหนือของผาเดิ่น หินคาร์บอนิเฟอรัสตอนล่าง ส่วนใหญ่ประกอบด้วยหินดินดาน หินทราย หินทรายแป้ง หินทรายเนื้อปนกรวด และถ่านหิน